วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2559

เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ เที่ยวช่วงปิดเทอม

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
    เมืองโบราณ ตั้งอยู่ที่ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 33 ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) ห่างจากตัวจังหวัด 8 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 800 ไร่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รวบรวมสถานที่สำคัญด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทย และเป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านที่นับวันจะสูญหายไปจากสังคมยุคใหม่
ภายในเมืองโบราณมีการจำลองสร้างโบราณสถาน ปูชนียสถาน วัดโบราณ พระราชวัง ต่างๆ ให้มีขนาดเล็กลง หรือบางแห่งเท่าแบบจริง เช่น เขาพระวิหาร ปราสาทหินพนมรุ้ง วัดมหาธาตุสุโขทัย พระพุทธบาทสระบุรี พระธาตุเมืองนคร พระธาตุไชยา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีส่วนรังสรรค์ซึ่งเป็นสถานที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของไทย
ลักษณะพื้นที่ของเมืองโบราณมีรูปร่างคล้ายขวานเหมือนกับอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งเมืองโบราณได้แบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็นส่วนต่างๆ คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ และส่วนรังสรรค์
ภาคเหนือ
  • ประตูวัดโพธิ์ประทับช้าง พิจิตร
  • สวนไกรทอง
  • พระปรางค์วัดจุฬามณี พิษณุโลก
  • วิหารสุโขทัย
  • เทวโลก
  • ป้อมเมืองกำแพงเพชร
  • ตลาดน้ำ
  • วิหารวัดพร้าว ตาก
  • เจดีย์ยอดทรงดอกบัว
  • ศาลาร้องทุกข์ สุโขทัย
  • เนินปราสาท สุโขทัย
  • วิหารหลวงวัดมหาธาตุ สุโขทัย
  • พระมหาธาตุเจดีย์ สุโขทัย
  • สวนพระลอ แพร่
  • หอคำ ลำปาง
  • เจดีย์จามเทวี ลำพูน
  • วัดจองคำ ลำปาง
  • วิหารเมืองสะเมิง
  • เจดีย์เจ็ดยอด เชียงใหม่
  • วิหารวัดเชียงของ เชียงราย
  • โบสถ์น้ำ
  • หมู่บ้านไทยภาคเหนือ
  • พระธาตุจอมกิตติ เชียงราย
  • วิหารวัดภูมินทร์ น่าน
  • ปรางค์ศรีเทพ เพชรบูรณ์
  • เทวรูปสวมหมวกแขก

  • ภาคกลาง
    • สวนขวา
    • ท้องพระโรงกรุงธนบุรี
    • พระพุทธรูปทวารวดี
    • เรือนทับขวัญ (เรือนทวารวดี)
    • คุ้มขุนแผน
    • อนุสรณ์สถานสงครามยุทธหัตถี
    • อนุสรณ์สถานกรมพระราชวัง บวรมหาสุรสิงหนาท
    • ด่านเจดีย์สามองค์ กาญจนบุรี
      • พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพฯ
      • เรือนต้น
      • วิหารพระศรีสรรเพชญ อยุธยา
      • พระที่นั่งจอมทอง
      • พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท
      • สวนรามเกียรติ์
      • พระตำหนักคำหยาด อ่างทอง
      • หอพระแก้ว
      • สวนขุนช้างขุนแผน
      • พระปรางค์ยอดกลีบมะเฟือง ชัยนาท
      • มณฑปพระพุทธบาท สระบุรี
      • กุฏิพระสงฆ์
      • พระปรางค์สามยอด ลพบุรี
      • วิหารวัดโพธิ์เก้าต้น สิงห์บุรี
      • อนุสรณ์สถานชาวบ้านบางระจัน
      • หมู่บ้านไทยภาคกลาง
      • ศาลหลักเมือ
      ภาคอีสาน
      • พระเจดีย์ศรีสองรัก เลย
      • มณฑปพระพุทธบาทยืน อุตรดิตถ์
      • ยมกปาฏิหาริย์
      • พระธาตุบังพวน หนองคาย
      • ศาลเทพารักษ์
      • ผาแดงนางไอ่
      • พระธาตุนารายณ์เจงเวง สกลนคร
      • วิหารล้านช้างและหอไตร
      • พระธาตุพนม นครพนม
        • ปราสาทพระวิหาร ศรีสะเกษ
        • พระนอน
        • หอนางอุษา
        • พิพิธภัณฑ์ชาวนา
        • พระธาตุยาคู กาฬสินธุ์
        • กู่คูมหาธาตุ
        • ปราสาทหินหนองกู่ ร้อยเอ็ด
        • สวนสังข์ทอง
        • กุฏิวิปัสสนา
        • พระพุทธรูปนาคปรก
        • บ้านโซ่ง
        • พระธาตุสามหมื่น ชัยภูมิ
        • ปราสาทหินพิมาย นครราชสีมา
        • ปราสาทหินพนมรุ้ง บุรีรัมย์
        • ศาลาแปดเหลี่ยม
        • กวนเกษียรสมุทร
        • ปราสาทศรีขรภูมิ สุรินทร์
        • วิหารทวารวดี
        ภาคตะวันออก
        • ป่าเจดีย์
        • ปราสาทสด๊กก๊อกธม สระแก้ว
        • โรงละคร
        • ศาลาโถงวัดนิมิตร ตราด
        • สวนพระอภัยมณี ระยอง
        • ป้อมและกำแพงเมืองฉะเชิงเทรา
        • ตึกแดง จันทบุรี
        ภาคใต้
        • พระแท่นที่ประทับ
        • ศาลาหน้าเมือง
        • ประตูเมือง
        • สวนอิเหนา
        • ศาลาในเมือง
        • สวนมโนห์รา
        • พระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
        • เทวรูปปัลลวะ พังงา
        • พระบรมธาตุไชยา สุราษฎร์ธานี
        • ตลาดโบราณ
        • ศาลาการเปรียญวัดใหญ่สุวรรณาราม เพชรบุรี
        • หอพระไตรปิฎก
        • หอระฆัง
        • พระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ราชบุรี
        ส่วนรังสรรค์
        • ศาลาทศชาติ
        • เสาชิงช้าและโบสถ์พราหมณ์
        • เขาพระสุเมรุ
        • ศาลาฤษีดัดตน
        • ขบวนเสด็จพยุหยาตรา ทางชลมารค
        • มณฑปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (เจ้าแม่กวนอิม)
        • พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปางแสดงปาฏิหาริย์
        • ศาลารามเกียรติ์
        • มณฑปพระธาตุ
        • สวนพฤกษชาติในวรรณคดีไทย
        • ศาลาพระอรหันต์
        • สะพานรุ้ง
        • ศาลาระลึกชาติ
        • เรือสำเภาไทย
        • ศาลา ๒๔ กตัญญู
        • ศาลาขงเบ้ง
        • มณฑปพระสี่ทิศ
 

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559

โค้กทอด

      โค้กทอด
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โค้กทอด

สิ่งที่ต้องใช้:

  1. ไข่ 3 ลูก
  2. โค้ก 2 ถ้วย
  3. น้ำตาลทราย ¼ ถ้วย
  4. แป้งอเนกประสงค์ 4 ถ้วย
  5. ผงฟู 2 ช้อนชา
  6. เกลือ ½ ช้อนชา
  7. น้ำมันพืช เอาไว้ทอด
  8. น้ำตาลไอซิ่ง
  9. หม้อทอด หรือ กระทะก้นลึก
  10. น้ำเชื่อมโค้ก (ถ้าหาซื่อได้ ควรใส่ แต่ถ้าไม่มีไม่เป็นไร)
  11. วิปครีม (ไม่ใส่ก็ได้ แล้วแต่)
  12. อบเชยผง (ไม่ใส่ก็ได้ แล้วแต่)

วิธีทำ:


  1. ตีไข่ เมื่อตีเสร็จ ใส่ โค้ก และ น้ำตาล
  2. ผสมแป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วย กับ ส่วนผสมโค้ก เข้าด้วยกัน แล้วค่อยๆ ใส่ แป้งอเนกประสงค์ อีก 2 ถ้วยระหว่างการคน คนผสมจนเนียนแต่ไม่ข้นจนเกินไป
  3. ตั้งไฟในหม้อทอดที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส หรือ ถ้าไม่รู้อุณหภูมิ ให้ดูจนน้ำมันเดือด
  4. ปั้นส่วนผสมแป้งโค้กที่ได้ให้เป็นลูกบอลใหญ่ประมาณ ครึ่งนิ้ว แล้วหย่อนลงไปในน้ำมัน
  5. ทอดประมาณ 2- 3 นาทีจนเป็นสีเหลือง แล้ว ตัก โค้กทอด ลูกกลมๆ ออกแล้ววางไว้บนกระดาษทิชชูเพื่อซับน้ำมัน
  6. นำ โค้กทอด มาคลุกกับน้ำตาลไอซิ่งในตอนที่ยังร้อนอยู่
  7. นำมาใส่ถ้วยแล้วราดด้วยน้ำเชื่อมโค้ก
  8. โปะหน้าด้วยวิปครีม แล้วโรยด้วยอบเชยผง
  9. เสร็จแล้วเสิร์ฟได้!!!

วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2559

ดอกจันทร์กะพ้อ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ดอกจันทน์กะพ้อ
ดอกจันทร์กะพ้อ
       จันทน์กะพ้อ เป็นพันธุ์ไม้ พวกเดียวกับยางนาและพะยอม บางพื้นที่ทางภาคใต้เรียก จันทน์พ้อ หรือ จันพอและที่จังหวัดพังงาเรียก เขี้ยวงูเขา
       จันทน์กะพ้อเป็นไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง (สูงประมาณ 5 - 15 เมตร) ต้นค่อนข้างตรง เปลือกเกลี้ยง เรือนยอดเป็นพุ่มรีหรือกว้างใบเป็นใบเดี่ยว รูปรียาว ขนาดยาว 7 - 9 เซนติเมตร กว้าง 2 - 3 เซนติเมตร สีเขียวเข้ม เรียงตัวแบบเวียนไปตามกิ่งห่างๆ กัน ดอกออกตามกิ่งเป็นช่อเล็กๆ ทยอยบานครั้งละ 1 - 2 ดอก แต่มักจะมีช่อหลายช่อเป็นกระจุกและเรียงเป็นระยะๆ ตามกิ่งดอกขนาด 1.2-1.5 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงมีขนสีน้ำตาลกลีบดอกเรียงเวียนซ้อนเกยกันเล็กน้อย ด้านในสีขาวนวลหรืออมชมพู ด้านนอกมีแถบแคบๆ มีขนละเอียดสีน้ำตาลอมแดง กลิ่นหอมแรง ออกดอกในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน
      จันทน์กะพ้อชอบขึ้นอยู่ตามริมน้ำ บริเวณที่มีน้ำท่วมหรือน้ำหลาก ชอบอยู่กลางแจ้งที่มีความชื้นในอากาศค่อนข้างสูง โตช้า ปลูกเลี้ยงค่อนข้างยาก ถ้าแดดจัดหรือลมแรงใบจะไหม้ ปัจจุบันจึงพบเห็นจันทน์กะพ้อน้อยลง สำหรับการขยายพันธุ์จันทน์กะพ้อนั้นทำโดยเพาะเมล็ด ใช้เวลาเพียง 1 เดือนรากก็เริ่มงอกแทงออกมา เมื่อต้นกล้าอายุ 1 ปี จะมีความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร และมีใบ 4-7 ในปีที่ 2 ต้นกล้าจะเจริญอย่างรวดเร็วและสูงประมาณ 1 เมตร ในช่วงนี้ถ้าปลูกในกระถาง ควรเปลี่ยนกระถางให้มีขนาดไม่ต่ำกว่า 10 นิ้ว หรือถ้าปลูกลงดินจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มีทรงพุ่มแผ่กว้าง เมื่ออายุ 5-7 ปี จะมีความสูง 2.5-5 เมตร และเริ่มออกดอก
ประโยชน์ของดอกจันทร์กะพ้อ
ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับ ดอกมีกลิ่นหอมค่อนข้างแรงมากและสามารถนำดอกมาปรุงเป็นยาหอม แก้ลม และบำรุงหัวใจ