ขนมทองพลุ
“ขนมทองพลุ” อีกหนึ่งขนมมงคลของไทย มีความหมายถึง “ความเจริญ มีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนพลุ” ขนมชนิดนี้จริง ๆ มีต้นตำรับมาจากฝรั่งเศส ดัดแปลงมาจากขนมเอแคลร์ ต่างกันตรงที่ขนมเอแคลร์ใช้อบและมีไส้ ส่วนขนมทองพลุจะใช้วิธีทอดเอา ดังนั้นถ้าใครทำขนมเอแคลร์ได้ ก็ทำขนมทองพลุได้เช่นกัน
ขนมทองพลุถูกจัดเป็นขนมชาววัง เพราะสมัยก่อนคนที่จะได้กินขนมที่ใส่นมหรือเนยนั้น ก็มีแต่ชาววัง ข้าราชการชั้นสูงหรือระดับเจ้าสัว ส่วนคนไทยแท้ดั้งเดิมที่เป็นไทยแท้ๆ พื้นบ้านที่ไม่ใช่ลูกแขกจะไม่ค่อยนิยมกินขนมชนิดนี้ด้วยเหตุผลที่ว่า นมหรือเนยมีกลิ่นเหม็นคาว ปัจจุบันขนมทองพลุถูกดัดแปลงให้มีทั้งไส้หวานและเค็ม
เครื่องปรุง ส่วนผสม
แป้งสาลี 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 3 ฟอง
น้ำสะอาด 1 ถ้วย
เนยสด 3/4 ถ้วย
เกลือ 1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
1. ตั้งน้ำในหม้อจนเดือด จากนั้นจึงใส่เกลือ และเนยสด คนให้ละลายเข้ากันดี
2. ค่อยๆ ใส่แป้งสาลีลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำตาล จากนั้นลดเป็นไฟอ่อน กวนจนแป้งสุก และส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี จึงนำไปใส่หม้อตีแป้ง และใช้เครื่องตี เมื่อแป้งเริ่มคลายความร้อนแล้ว จึงใส่ไข่ไก่ลงไปทีละฟองจนหมด ตีจนแป้งและ ไข่เข้ากันเป็นเนื้อเดียว เนียนสวย เป็นอันเสร็จ
3. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง ตักส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ลงไปทอด ครั้งละประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ โดยใช้นิ้วปาดส่วนผสมให้หล่นลงไปในกระทะ เพื่อให้ ได้รูปทรงกลม ทอดจนขนมพองตัวและสุก เหลืองดี จึงตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน พักไว้
4. นำขนมเสริฟพร้อมไส้ที่เตรียมไว้ ถ้าเสริฟทองพลุไส้เค็ม ให้นำมีดมาผ่าตัวขนมทองพลุ ให้มีช่องพอประมาณ จากนั้นจึงตักใส้เค็มที่ทำเตรียมไว้ ใส่ลงไปในขนมก่อน จึงค่อยนำเสริฟ
หมายเหตุ : สำหรับไส้หวาน ทำได้ง่ายๆ โดยนำ น้ำเชื่อมผสมกับน้ำแดง หรือจะจิ้มกับ น้ำผึ้ง, น้ำตาล หรือน้ำเชื่อมข้นๆ เลยก็ได้
สำหรับไส้เค็ม : ทำได้โดยนำหอมใหญ่หั่นเต๋า (1/4 ถ้วย), แครอทต้มหั่นเต๋า (1/4 ถ้วย), ไก่ต้มหั่นเต๋า (1/2 ถ้วย) ผัดเข้าด้วยกันกับน้ำมัน (1/4 ถ้วย) ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย (1 ช้อนชา), เกลือป่น (1/4 ช้อนชา), ซ๊อสปรุงรส (1 ช้อนโต๊ะ) และพริกไทย (1/4 ช้อนชา) ผัดจนเข้ากัน ทิ้งไว้ให้เย็นและนำไปใส่ไส้ในตัวขนมทองพลุ
|